กินไขมัน เพื่อลดไขมัน กับ คีโตเจนิคไดเอท (Ketogenic Diet)

การกินแบบคีโตเจนิคไดเอท คือ กินแป้งน้อย ไขมันเยอะ โดยกินคาร์โบไฮเดรต 5% โปรตีน 20% และไขมัน 75%     หลังจากที่เราเริ่มกินแบบคีโตเจนิคไดเอท ไปได้ 1-2 สัปดาห์ ระดับกลูโคสและอินซูลินในร่างกายจะลดลง ทำให้ร่างกายเกิดอาการ “กลัวตาย” และเมื่อไม่มีกลูโคส ร่างกายจึงสร้างคีโตน (Ketone) ในตับ และดึงไขมันมาใช้ในการสร้างพลังงาน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมยิ่งกินไขมันถึงยิ่งเผาผลาญไขมันนั่นเองค่ะ

สูตรคีโตเจนิค ไดเอต ทานอะไรบ้าง เรามาดูกัน
– เนื้อสัตว์ ทุกชนิด ติดมันได้, เครื่องใน, ไข่, อาหารทะเล, เบคอน
– ผลไม้  อะโวคาโด (ไขมันสูง แม้มีคาร์บแต่ส่วนใหญ่คือไฟเบอร์), เนื้อมะพร้าว, มะนาว, เลมอน, มะกอก, เบอรี่ทั้งหลาย (จำกัดปริมาณ)
– ผักใบเขียว สามารถรับประทานผักใบเขียวได้ทุกชนิด (แต่ควรหลีกเลี่ยงพืชหัวที่มีสัดส่วนคาร์โบไฮเดรตเยอะ เช่น เผือก มัน เป็นต้น)
– นม ต้องเป็นนมพร่องมันเนยที่มีไขมันต่ำ หรือผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย ครีม ครีมชีส ชีส (มาการีนไม่สามารถรับประทานได้)
– พืชตระกูลถั่ว ควรรับประทานเฉพาะถั่วเมล็ดเดี่ยว เช่น วอลนัท แมคคาเดเมีย อัลมอนด์
– เครื่องดื่ม: นมอัลมอนด์, ชา, กาแฟ (ใส่ครีมแทนนม), น้ำโซดา, น้ำมะนาวและน้ำเปล่าดีที่สุด
– ไขมันจากสัตว์ เช่น เนื้อติดมัน เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์แปรรูปที่ไม่ผสมแป้ง ไข่ อาหารทะเล
– ไขมันจากพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันอะโวคาโด เเละน้ำมันเจีย

ทั้งข้อดีและข้อเสียของการลดน้ำหนักแบบคีโตเจนิค ไดเอต
ข้อดี คือ ทำให้น้ำหนักและไขมันส่วนเกินลดลง เพราะไขมันที่สะสมไว้ถูกนำไปเผาผลาญ ขณะเดียวกันร่างกายก็รับพลังงานเข้ามาน้อยลงด้วย สามารถรักษาระดับมวลกล้ามเนื้อไว้ได้ หรือสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในระดับที่น้อย
ข้อเสีย คือการรับประทานแบบคีโตไดเอทอาจทำให้ร่างกายเสียสมดุล เนื่องจากในระยะแรกระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายอาจผิดปกติเพราะร่างกายได้รับกากใยอาหารน้อยเกินไป และในระยะยาวอาจเป็นโรคขาดสารอาหารได้ รวมถึงอาจทำให้อวัยวะภายในทำงานผิดปกติ เนื่องจากได้รับสารอาหารไม่ครบหมู่ตามหลักโภชนาการ

คีโตไดเอท (Ketogenic Diet) จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ  และไม่ต้องทำงานที่ใช้พลังงานมาก เนื่องจากในระยะแรกอาจทำให้เกิดการอ่อนเพลีย รวมถึงเกิดภาวะบางอย่างขึ้นจากการปรับตัวของร่างกายค่ะ