ประโยชน์ของน้ำมันอะโวคาโด

จากอาหารที่ชาวคีโตเจนิคไดเอททานนั้น ได้เน้นการทานไขมัน เพื่อเผาพลาญไขมัน ทีนี้เรามาดูกันคะว่า ไขมันจากพืชที่เราต้องทานเข้าไป มีประโยชน์ต่อร่างกายเราอย่างไรบ้างค่ะ

-ช่วยลดคอเลสเตอรอล น้ำมันอะโวคาโดอุดมด้วยกรดโอเลอิก (Oleic Acid) ที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ดีต่อสุขภาพ  ทำให้สุขภาพหัวใจดีขึ้น และก็ช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL)

-น้ำมันอะโวคาโดอุดมด้วยลูทีน (Lutein) เป็นแคโรทินอยด์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประโยชน์ต่อดวงตา จึงช่วยบำรุงดวงตา

-อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินอีสูง ไขมันที่ละลายในน้ำชนิดนี้ช่วยทำให้ผิวดีขึ้น บำรุงระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันความเสียหายจากอนุมูลอิสระในร่างกาย และทำให้การย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น วิตามิน แร่ธาตุ และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในอะโวคาโดช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

-น้ำมันอะโวคาโดอุดมด้วยคลอโรฟิล (chlorophyll) ที่เป็นแหล่งของแมกนีเซียม และเป็นหนึ่งในสารธรรมชาติที่ช่วยในการขจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย (เช่น ตะกั่ว สารปรอท ที่เป็นของเสียจากตับ ไต และอวัยวะอื่นของร่างกาย) โมเลกุลของคลอโรฟิลล์มีอนุภาคของแมกนีเซียมที่จะปล่อยออกมาได้เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด อย่างเช่นในร่างกายมนุษย์ เมื่อไม่มีแมกนีเซียมที่ถูกปล่อยออกมา คลอโรฟิลล์ก็จะดึงเอาอนุภาคของโลหะเข้าไปแทนที่ และขับออกมาจากร่างกายทางอุจจาระ จับคู่น้ำมันอะโวคาโดกับสลัดหรืออาหารผักอื่น เพื่อเพิ่มพลังของคลอโรฟิลล์ในการขับสารพิษ

-ทาน้ำมันอะโวคาโดลงบนผิว จะช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกายในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงกว่าเก่า เนื่องจากวิตามินอี โปตัสเซียม และเลซิธิน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในน้ำมัน สามารถดูดซึมผ่านเข้าไปในผิวชั้นนอกเข้าสู่ผิวชั้นใน ช่วยทำให้เซลล์ผิวใหม่เติบโตเร็วขึ้น  ช่วยคงความอ่อนเยาว์ได้เป็นอย่างดี

-น้ำมันอะโวคาโดที่เอามาทาบนผิวช่วยบรรเทาอาการต่างๆของผิวได้ เช่น อาการคัน ผิวแตก ส้นเท้าแตก ผิวไหม้แดด ผิวหนังอักเสบ และสะเก็ดเงิน ลดอาการอักเสบและคันของผิว เนื่องจากปริมาณของกรดโอเลอิกที่มีคุณสมบัติต้านอักเสบ

-สารอาหารในน้ำมันอะโวคาโด เหมาะอย่างมากสำหรับการบำรุงผม โดยใช้น้ำมันอะโวคาโดหมักผม หรือเอาไปผสมกับน้ำมันหอมระเหยอื่นมีประโยชน์ต่อผมและหนังศีรษะ ก่อนทาลงบนเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมดูดีและแข็งแรงขึ้น เส้นผมจึงยาวเร็วขึ้นด้วยค่ะ

-น้ำมันอะโวคาโดใช้ปรุงอาหารได้ดี เพราะเป็นน้ำมันที่มีจุดการเกิดควันสูง  ความร้อนจากการปรุงอาหารไม่เพียงแต่จะทำลายสารอาหารในน้ำมัน แต่มันยังทำให้เกิดสารประกอบอันตรายขึ้นมาด้วยนั่นก็คือ สาร AGE(Advance glycation end products) ซึ่งได้รับการยืนยันว่าทำให้ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็ง มีส่วนอย่างมากในการทำให้เกิดการอักเสบ และทำให้ผิวแก่ลง น้ำมันอะโวคาโดบริสุทธิ์ เป็นน้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูงกว่าน้ำมันอื่น เหตุผลที่น้ำมันอะโวคาโดทนความร้อนได้สูง เพราะมีไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (polyunsaturated fat) ในปริมาณต่ำ เนื่องจากไขมันนี้ไม่ค่อยเสถียรและทำปฏิกิริยากับออกซิเจนได้ง่าย (Oxidation)

-อะโวคาโดมีโปรตีนสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่น เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย มีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยในการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี